ผมของคุณนั้นต้องการเคราตินหรือไม่?
เคราตินเป็นโปรตีนที่พบได้ทั่วไปในโครงสร้างของเส้นผม มีหน้าที่หลักในการปกป้องและบำรุงเส้นผมให้ดูเงางาม โปรตีนเคราตินช่วยปกป้องและทำหน้าที่เหมือนตัวป้องกันความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการชี้ฟู
คุณสงสัยหรือไม่ว่าทำไมคุณถึงต้องทำทรีตเม้นต์เคราติน ในเมื่อมันมีอยู่ในเส้นผมของคุณอยู่แล้ว?
นั่นเป็นเพราะว่าเส้นผมของคุณสูญเสียเคราตินไปตามกาลเวลา เนื่องจากแสงแดด, อายุที่มากขึ้น การใช้อุปกรณ์ทำผมที่ต้องใช้ความร้อน, มลภาวะทางอากาศ และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เป็นอันตรายต่อเส้นผม ดังนั้นการทำทรีตเม้นต์เคราตินจะช่วยเติมโปรตีนเข้าสู่เส้นผม และกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
อย่างเช่นในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่มีอากาศร้อนชื้น อากาศเต็มไปด้วยมลภาวะ และแสงแดดจัด
แล้วมันจำเป็นไหม? นี่คือเป็นสัญญาณทั่วไปที่อาจแจ้งเตือนคุณว่าระดับโปรตีนเคราตินของผมคุณลดลง:
1- สัญญาณว่าเส้นผมของคุณต้องการเคราติน
ผมดูบางลงหรือหลุดร่วง
ผมที่ดูสมบูรณ์มักเป็นสัญญาณที่ดีว่าเส้นผมมีสุขภาพดี เมื่อผมเริ่มบางลงกว่าปกติ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการขาดเคราติน การทำเคราตินสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผมให้สมบูรณ์ สุขภาพดี และแข็งแรงได้
ผมสูญเสียความยืดหยุ่นและแตกหักง่าย
เมื่อเส้นผมขาดความยืดหยุ่นก็อาจขาดได้ง่าย ผมที่สูญเสียความยืดหยุ่น หากยืดเพียงเล็กน้อยก็จะขาด เคราตินจะฟื้นฟูเส้นใยผมให้เด้งและขยายความยืดหยุ่น
ผมมีรูพรุนและชี้ฟู
หากคุณรู้สึกว่าเส้นผมดูดซับความชื้นได้เร็วขึ้น แสดงว่าเส้นผมมีรูพรุน จึงเป็นสาเหตุให้ผมดูชี้ฟูและจัดทรงยาก ทรีตเม้นต์เคราตินจะเติมเต็มช่องว่างระหว่างเกล็ดผมเพื่อสร้างเส้นใยปิดรูพรุน เคราตินจะกักเก็บความชื้นและลดการชี้ฟูได้ดี ทำให้ผมเรียบลื่นและเงางามมากขึ้น
ผมที่ผ่านการทำสี
หากคุณเพิ่งทำสีผมและสังเกตเห็นว่าสีผมของคุณจางลงอย่างรวดเร็ว แสดงว่าผมของคุณอาจขาดเคราตินเช่นกัน การทำเคราตินทันทีหลังการทำสีหรือไม่กี่สัปดาห์ จะช่วยล็อคเม็ดสีและเพิ่มความคงทนของสี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาเส้นผมที่ผ่านการทำเคมีซ้ำซ้อน ซึ่งจำเป็นต้องซ่อมแซมพันธะของเส้นผมหลังการทำสีหรือการทำเคมีหลายครั้ง
ผมที่ถูกแสงแดดจัดและโดนน้ำทะเล
การได้รับแสงยูวีร่วมกับการเล่นน้ำทะเล อาจทำให้เส้นผมแห้งได้ เส้นผมจะเปราะและแตกปลาย
ทรีตเม้นต์เคราตินเป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูความเงางามและเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมที่ผ่านการโดนแสงแดดจัดและน้ำทะเล
หลีกเลี่ยงและระมัดระวังทรีตเม้นต์เคราตินโดยใช้สารฟอร์มาลดีไฮด์
ไม่ใช่ทรีตเม้นต์เคราตินทุกชนิดจะได้ประโยชน์และผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด
ทรีตเม้นต์เคราตินที่แท้จริงจะช่วยฟื้นฟูความแข็งแรง ความเงางาม ความยืดหยุ่น และเความสุขภาพดีให้กับเส้นผมของคุณ มักเรียกกันว่า “Smoothing Keratin” โดยปกติแล้วเส้นผมจะคงความเป็นคลื่น, ลอน และวอลลุ่มหลังการสระ แต่จะช่วยลดการชี้ฟู และจัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น
คำถามแรก: ทรีตเม้นต์ตัวนี้ช่วยให้ผมตรงหรือไม่ ?
ถ้าในกรณีที่ร้านเสริมสวยรับประกันว่าผมของคุณจะตรงและทำให้ลอนผมคุณคลายออกภายในไม่กี่เดือน มั่นใจได้ 100% ว่าทรีตเม้นต์นี้ใช้สารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือสารที่ใกล้เคียงกัน
สารเคมีเหล่านี้ใช้เคลือบเส้นผมเพื่อให้ผมตรง เนื่องจากเคราตินไม่ได้ทำให้ผมตรง
ผลลัพธ์ที่ได้คือการทำทรีตเม้นต์ผมตรง คือคุณจะได้ผมที่ตรงสลวย แต่จะทำให้สูญเสียเคราตินที่มีอยู่
ไม่ว่าแบรนด์จะทำการตลาดและกำหนดสูตรมาเพื่อล่อลวงคุณอย่างไร นอกจากนี้ยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณเมื่อคุณสูดดมสารที่มาจากการทำเคราตินในระหว่างกระบวนการทำ แน่นอนว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ผมตรงสลวย แต่คุ้มที่จะเสี่ยงหรือไม่?
ทางเลือกอื่นคือการใช้เคราตินที่รับประกันว่าปราศจากสารฟอร์มาลดีไฮด์ (และสารที่ใกล้เคียงกัน) เช่นเดียวกับที่ใช้ในร้าน Niche Salon ของเรา ! Keratherapy Pure renewal Smoothing Treatment ปราศจากสารฟอร์มาลดีไฮด์
ขั้นตอนการทำทรีตเม้นต์เคราติน
ขั้นตอนแรกคือการสระผมด้วยแชมพูที่ทำความสะอาดล้ำลึก เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างและสิ่งสกปรก
จากนั้นช่างทำผมของคุณจะเป่าผมให้แห้งและลงน้ำยาเคราติน
ใช้แปรงทาน้ำยาเคราตินลงไปที่ผมและใช้หวีซี่ถี่เพื่อกระจายทรีตเม้นต์อย่างสม่ำเสมอ
ตามสูตรต้องทิ้งน้ำยาเคราตินบนเส้นผมไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ขั้นตอนต่อไปคือการใช้ความร้อนด้วยเครื่องหนีบไทเทเนียม
ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลเส้นผมของคุณหรือติดตามการทำทรีตเม้นต์ ติดต่อ NICHE ได้เลย!
ที่ Niche Salon Bangkok เราเน้นการดูแลเส้นผมของคุณในระยะยาว จากการให้คำปรึกษา การบริการ การดูแลเส้นผมที่บ้าน และการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทีมงานของเราจะปรับบริการทุกด้านเพื่อตอบสนองสไตล์และสภาพเส้นผมที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลเส้นผมของคุณ หรือเกี่ยวกับสไตล์ในอนาคตของคุณ ติดต่อเราได้เลย ทางร้านยินดีให้คำแนะนำค่ะ