รู้ทุกเรื่องของการทำสีผมแบบ balayage
เทรนด์การทำสีผมแห่งยุค 2020 ที่คุณไม่ควรพลาดอย่าง Balayage hair ที่มีให้เห็นอย่างแพร่หลายว่า 12 ล้านโพสต์ในโลกโซเชียลทั้ง Facebook และแหล่งอัพรุปของสาวๆอย่าง Instagram เราอาจะได้เคยผ่านตามาบ้างแล้วกับรูปที่ลงได้ถูกอัพลงในโลกออนไลน์เหล่านั้น ด้วยสีผมที่ถูกทำไฮไลท์มาหลากหลายเฉดสี แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอะไรคือ Balayage hair color และมันแตกต่างจากการทำไฮไลท์ปกติอย่าไร ดังนั้นในบล็อกนี้เราจะไขข้อข้องใจของหลายๆคนกัน
Balayage คืออะไร?
เมื่อพูดถึงการทำ Balayage ให้เรานึกไว้เสมอว่ามันไม่ใช่เพียงแค่เฉดสีในการทำสีผม แต่มันคือเทคนิคของการทำสีผม ซึ่งถูกคิดค้นโดยช่างทำสีผมชาวฝรั่งเศษเมื่อศตวรรษที 70 จึงเป็นที่มาของชื่อเทคนิคนี้ว่า Ba-la-yage ซึ่งเป็นการออกเสียงแบบฝรั่งเศษนั่นเอง โดยมีความหมายว่า “การปัดกวาด” ซึ่งเป็นการอธิบายขั้นตอนการใช้แปรงและแผ่นรอง แต่การทำสีผมด้วยวิธีปกติทั่วไปจะใช้มืออย่างเดียวในการทำ ไม่มีตัวช่วยหรืออุปกรณ์ใดๆ
การลงสีและตำแหน่งของเฉดสีจะถูกดีไซด์จากช่าง ซึ่งวางใจได้เลยว่าออกมาสวยแน่นอน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์ถึงจะเชี่ยวชาญและดีไซด์ออกมาได้สวยถูกใจลูกค้า และนี่จึงเหตุผลว่าควรทำที่ร้านกับช่างผู้มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ยิ่งเมื่อถูกแสงแดดจะยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก
แล้ว Balayage ต้องทำอย่างไร?
การทำ Balayage ขึ้นอยู่กับความยาวผมและความต้องการของแต่ละบุคคลโดยอาจจะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หัวใจหลักของการสีผมแบบนี้คือการใช้ แปรงและแผ่นรอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น ช่างทำสีผมจะเลือกทำไฮไลท์ให้กับผมบางช่อเพื่อให้สีออกมาดูสวยงาม จากนั้นจึงลงสีด้วยเฉดสีที่แตกต่างกันออกไป โดยจะยึดจากความหนาบางและความยาวขอช่อผมนั้นๆ ขั้นตอนนี้จึงใช้เวลาทำนานกว่าการทำสีผมแบบปกติ โดยเริ่มจากการการฟอกสีผมเป็นช่อๆจากนั้นจึงลงสี โดยสีผมหลังจากการฟอกก็จะแตกต่างกัน พอนำมาลงด้วยสีที่ต่างเฉดด้วยแล้ว จึงทำใหกิดเป็นเฉดสีที่หลากหลายและสวยงามมากกว่าเมื่อเทียบกับการทำสีผมแบบปกติ หากคุณต้องการทำสีผมด้วยวิธีนี้แล้ว คุณต้องมีเวลาให้กับมันอย่างน้อย 4 ชั่วโมงเลยเดียวที ยิ่งคุณมีผมที่ยาวคุณก็ต้องให้เวลากับมันยาวนานมากขึ้น และถึงแม้ว่าช่างจะมีประสบการณ์ที่มาก แต่บางขั้นตอนก็ให้เวลากับมัน ความสวยต้องใช้เวลานะจ๊ะ
เนื่องจากขั้นตอนการเริ่มต้นด้วยการฟอกสีผม ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช้การฟอกทั้งศรีษะ แต่เส้นผมที่ถูกฟอกสีผมก็อาจจะเกิดการถูกทำร้าย ดังนั้นการบอกช่างทำสีผมถึงอดีตของผมว่าเคยผ่านการทำอะไรมานั้นจึงเป้นเรื่องที่สำคัญ เพราะช่างทำสีจะได้ให้คำแนะนำว่าควรทำอย่างไรกับผม หรือแนะนำการทำทรีทเม้นท์อย่าง Olaplex ซึ่งจะช่วยบำรุงและรักษาเส้นผมจากการทำสีได้ หรือแม้กระทั่งแนะนำให้เว้นช่วงระยะในการทำสีผมเนื่องจากให้เส้นผมที่เสียหายได้ฟื้นฟูตัวเองก่อนทำสี การ
ปรึกษากับช่างก่อนทำสีหรือทำเคมีใดๆจึงถือเป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน เพราะขั้นตอนนี้ช่างสามารถให้คำแนะนำทั้งเรื่องขั้นตอน และวิธีการฟื้นฟูเส้นผมหลังทำได้ รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการทำสีและหลังทำสีแล้ว
Balayage Vs Highlights
ปัจจุบันช่างทำสีผมจะให้ฟอยหรือผ้าการทำสีแบบ Balayage ซึ่งต่างจากการทำสีแบบปกติที่จะใช้มืออย่างเดียว หากเปรียบเทียบกับการทำไฮไลท์ ซึ่งคือวิธีย้อมสีผมโดยเริ่มจากการฟอกสีผม ซึ่งจะฟอกตั้งแต่โคลนผมถึงปลายผมตลอดแนวยาวทั้งศรีษะ แต่การทำสีแบบ Balayage เริ่มจากการการฟอกสีโดยสุ่มเป็นช่อผมให้ทั่วทั้งศรีษะ เพื่อให้ผมยังคงดูเป็นธรรมชาติเมื่อกระทบกับแสงแดด ซึ่งจุดนี้จะแตกต่างจากการทำไฮไลท์ หรือกล่าวอีกมุมหนึ่งคือการทำสีแบบ Balayage ถือเป็นการโชว์ถือความคิดที่สร้างสรรค์ในการดีไซด์เฉดสีเพื่อให้เข้ารูปหน้า สีผิวและลุคที่ดีของคุณ
Balayage Vs Ombre
Ombre คือการทำสีผมแบบไล่ความเข้มของสีจากเข้มมากที่โคลนผม ไลล่เป็นอ่อนลงมาเรื่อยๆจนถึงปลายผม แต่การสีแบบ Balayage ไม่ใช่การไล่ความเข้มสี แต่เป็นการทำสีในแต่ละช่อผมที่มีโทนสีแตกต่างกันออกไป อาจจะมีการไล่เฉดแซมบ้าง เพื่อให้ได้สีผมออกมาสวยงามเป็นดูเป็นธรรมชาติเมื่อกระทบกับแสงแดด
Balayage ทำได้แค่กับคนที่ผมสีบลอนด์?
แน่นอนว่าคำตอบของข้อสงสัยนี้คือ ไม่ใช่ Balayage สามารถทำได้กับทุกสีผมและทุกคน นี่แหละที่ทำให้การสีแบบนี้เป็นที่นิยมในสมัยนี้ อาจจะจริงที่ว่าการทำสีแบบ Balayage ในยุดแรกสามารถทำได้กลุ่มคนผมบลอนด์ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและองค์ความรู้รวมถึงปะสบการณ์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาต่อยอดมาถึงปัจจุบัน ทุกสีผมตั้งแต่ผมดำจึงถึงสี บลอนด์ หรือแม้แต่สีแฟชั่น ก็ล้วนสามารถทำสีแบบ Balayage ได้ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าทึ่งเลยเช่นกัน
การทำสีแบบ Balayage สามารถได้ทำผมทุกสี ทุกความยาว และทุกทรงผม จริงๆแล้วการทำสีผมแบบนี้อาจจะสิ่งที่ดีสำหรับช่างทำสีมือใหม่ด้วยซ้ำ เพราะบางๆครั้งการทำสีผมสีเดียวเลยทั้งศรีษะเป็นเรื่องที่จำเจ ด้วยข้อด้อยของการทำสีผมแบบปกติข้อนี้จึงทำให้หันมาทำสีแบบ Balayage มากขึ้น และข้อดีของการทำสีแบบ Balayage คือการง่ายต่อการดูแล เพราะการทำสีแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเติมสีที่โคลนผมที่ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการทำสีผมแบบเดิม ในทุกวันที่ร้าน Niche Salon Bangkok ของเรา ได้ให้บริการทำสีผมแบบ Balayage ลุกค้าบางท่านโดยเฉพาะลูกค้าที่มีผมสีบลอนด์จะกลับมาหลังจากทำสีไปแล้ว 1-2 เดือน เพื่อเติมสีที่โคลนผมให้สวยงามเท่านั้น ถึงแม้จะผ่านไปมากกว่า 2 เดือนแล้วหลังจากทำสี แต่ด้วยเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ของช่างทำสี โลนผมที่ขึ้นมาใหม่ก็ยังเข้ากับสีผมทำมาแล้ว และคงดูเป็นธรรมชาติเช่นเดิม การทำสีแบบ Balayage นั้นสามารถทำได้กับทุกสีผม และทำได้หลายโทนสี ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล สีเทา โรสโกล์ด ฟ้าคราม หรือแม้แต่ชโทนสีชมพูหวานแหวว ก็สามารถรังสรรค์ได้
และที่สำคัญการทำสีผมแบบนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและทุกเชื้อชาติ จึงไม่แปลกเลยที่การทำสีแบบ Balayage จะเป็นที่แพร่หลายในโลกวงการแฟชั่น ร้าน Niche Salon Bangkok หวังเป็นยิ่งยิ่งว่าจะได้มีโอกาสเปลี่ยนโฉมให้กับคุณนะคะ