ข้อควรรู้เกี่ยวกับเคราตินทรีทเม้นท์ สูตรใหม่ “KERATHERAPY RENEWAL PLUS – ZERO FORMALDEHYDE”
ร้านนิช ซาลอน แบงค็อก ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอให้ทุกคนได้ทราบถึงเคราตินทรีทเม้นท์ตัวใหม่ คือ เคราตินทรีทเม้นท์ “Renewal plus Zero formaldehyde” จาก Keratherapy
ถึงเวลาลองแบบใหม่! เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจาก เมืองฟอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกปรับให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของกรุงเทพฯโดยเฉพาะเพื่อลดการชี้ฟู ให้ผมเรียบลื่น และให้ผมเงางาม ได้นานถึง 3 เดือน
ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับทรีทเม้นท์บำรุงผมนี้ ว่าเหมาะกับเส้นผมประเภทไหน ต้องดูแลอย่างไรหลังจากทำทรีทเม้นท์
บล็อกนี้จะตอบทุกข้อสงสัยให้กับคุณ
ถ้าคุณยังมีคำถาม ไม่ต้องเกรงใจที่จะทักข้อความเข้ามาถาม หรือสามารถโทร หรือแวะมารับคำปรึกษาฟรีจากทีมช่างมืออาชีพของเราได้ที่หน้าร้าน
Keratherapy Renewal plus เป็นเคราตินทรีทเม้นท์แบบไหนกัน?
เป็นเคราตินที่ปราศจากสารฟอร์มาลดีไฮด์ 100 % ด้วยระบบเทคโนโลยี Kerabond เพื่อช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผม ช่วยให้ผมเงางาม จัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้นและช่วยคลายลอนผมหยิก ยักศก ได้นาน 12 อาทิตย์
หลายคนเรียกตัวนี้ว่า formaldehyde free treatments, Renewal Plus ถ้าปราศจากสารฟอมาลดีไฮด์ นั่นหมายความว่า ปราศจากสารแอลดีไฮด์ ,ทีโอ และโซเดียม ไฮดรอกไซด์เช่นกัน
เทคโนโลยี Kerabond คืออะไร
ผลิตภัณฑ์ของ Keratherapy ทั้งหมดสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี Kerabond
Kerabond เป็นกระบวนการคราตินบริสุทธิ์ที่ได้รับการคิดค้น พัฒนาและปรับปรุง ทำให้สามารถใช้บนหนังศรีษะได้ และ แทรกซึมลึกเข้าไปในเส้นผมที่เกาะติดกับส่วนที่เสียหายที่สุดของเส้นผม
Kerabond ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นผม ช่วยให้ผมเรียบลื่นและซ่อมแซมเส้นผมในจุดที่เส้นผมเสียหายได้มากที่สุด
เคราติน Keratherapy renewal plus อยู่ได้ถาวรหรือไม่ ?
ตอบเลยว่า ไม่ เคราตินทรีทเม้นท์ตัวนี้ไม่ได้เป็นทรีทเม้นท์ถาวรเพราะตัวนี้ไม่ได้เข้าไปทำลายหรือเปลี่ยนพันธะเส้นใยผม
เส้นผมจะกลับสู่สภาพผมเดิมของเราเมื่อทรีทเม้นท์หลุดออกหมดแล้ว
ใช้เวลาทำนานไหม?
ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยาวผมและความหนา บางของเส้นผม
เคราตินทรีทเม้นท์อยู่ได้นานเท่าไร?
เคราตินทรีทเม้นท์อยู่ได้นาน 3 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลและการชีวิตประจำวันเช่นกัน เช่น ว่ายน้ำในสระน้ำ น้ำทะเล หรือใช้แชมพูที่มีสารซัลเฟสหลังจากทำเคราตินทรีทเม้นท์ไป สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆคลายเคราตินออกทำให้เคราตินอยู่ได้น้อยกว่า 3 เดือน
หมายเหตุ : เคราตินทรีทเม้นท์ ไม่ได้ทำให้ผมตรง
เคราตินทรีทเม้นท์จริงๆคือ ทรีทเม้นท์ที่ช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผม ให้ผมนุ่มขึ้น เงาขึ้นและจัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผมมีสุขภาพที่ดีขึ้นและดูสวยขึ้น
ลูกค้าบางท่านอาจจะสับสนว่า เคราตินบางตัว ที่เรียกว่า เคราตินทรีทเม้นท์ มีสารฟอมาลดีไฮด์และสารเคมีอื่นๆที่เคลือบเส้นผมและช่วยให้ผมตรง
อย่างไรก็ตาม สารเคมีอาจจะมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ (ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง) ของลูกค้าและช่าง ดังนั้นทางร้านนิช ซาลอน จึงไม่อยากใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
คุณสามารถทำเคราตินทรีทเม้นท์ Keratherapy Renewal Plus ได้บ่อยแค่ไหน ?
เราแนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 8 สัปดาห์ขึ้นไป ก่อนที่จะทำทรีทเม้นท์ตัวอื่นๆ
สามารถทำเคราตินทรีทเม้นท์ Keratherapy Renewal Plus หลังจากกับการทำสีผมได้ทันทีหรือไม่?
ใช่ สามารถทำเคราตินทรีทเม้นท์หลังจากทำสีผมได้ในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าทำเคราตินทรีทเม้นท์ก่อนทำสีผม แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการทำสีผม
สามารถทำเคราติน Keratherapy Renewal Plus กับผมที่ผ่านการทำเคมีอื่นๆ เช่น การทำสี การทำไฮไลท์ หรือการยืด ได้หรือไม่?
ใช่ สามารถทำได้ เคราตินนี้สามารถใช้กับผมทุกประเภท โดยเราจะทำการวิเคราะห์เส้นผมและปรึกษากับช่างผู้เชียวชาญอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมกับสภาพผมแต่ละแบบมากที่สุด และผมต้องสามารถทนต่อความร้อนสูงของที่หนีบผมได้
สำหรับผมเสียที่ไม่สามารถใช้ความร้อนได้ ไม่เหมาะกับการทำเคราติน เราจะไม่แนะนำให้ทำเคราติน
หลังจากยืดผม แนะนำให้รอประมาณ 12 สัปดาห์ หากจะทำทรีทเม้นท์เคราติน
เคราติน Keratherapy Renewal Plus เป็นไปตามข้อกำหนดของ OSHA หรือไม่ ? (มาตรฐานสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
ใช่ Pure Renewal เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานด้านสุขภาพทั่วโลก
หลังทำเคราตินทรีทเม้นท์ Keratherapy Renewal Plus สามารถสระผมได้หรือไม่?
ได้ ไม่มีระยะเวลารอสำหรับการสระผม ยิ่งจะทำให้ยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีของเคราตินทรีทเม้นท์
หลังทำเคราตินทรีทเม้นท์ Keratherapy Renewal Plus สามารถมัดผมหางม้าหรือใช้กิ๊บติดผมได้ทันทีหรือไม่?
ได้ หลังทำในเคราตินทรีทเม้นท์ สบายใจได้ที่จะมัดผมขึ้น ออกกำลังกาย หรือ ว่ายน้ำ ได้ในวันเดียวกันนั้นเลย
ควรใช้แชมพูและครีมนวดผมแบบไหนหลังจากทำเคราตินทรีทเม้นท์ Keratherapy Renewal plus Zero formaldehyde ?
เราแนะนำให้เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ปราศจากสารโซเดียมคลอไรด์และซัลเฟตเพื่อรักษาเคราตินให้คงอยู่กับเส้นผมได้ยาวนานยิ่งขึ้น
